ปัญหาทางไฟฟ้า
ปัญหาทางไฟฟ้า
ปัจจุบันปัญหาทางไฟฟ้าเป็นปัญหาใหญ่เพราะความเสียหายของเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
ประมวลผล 80% เกิดจากปัญหาทางไฟฟ้า เช่น
1. ปัญหาไฟตกชั่วขณะ (Sag Voltage)
หรือ Voltage Drop จะเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะ มักจะเกิดจากการใช้กำลังไฟฟ้ามากเกินขนาดที่สาย Main หรือหม้อแปลงไฟฟ้า
จ่ายไฟจะจ่ายให้ได้ เช่น การเดินเครื่องจักรใหญ่ ช่วงการเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือเริ่มเดินเครื่องมอเตอร์ขนาดใหญ่
จะทำให้ไฟตกลงชั่วขณะได้
2. ปัญหาไฟเกินชั่วขณะ (Surge Voltage)
มักจะเกิดจากการปิดสวิทซ์ของโหลดขนาดใหญ่หรือเกิดจากการเหนี่ยวนำไฟฟ้า เนื่องมาจากฟ้าผ่าลงสายไฟฟ้า
จะทำให้เกิดไฟฟ้าสูงชั่วขณะเป็นปัญหาที่รุนแรงพอสมควร พอที่อาจจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์เสียหายได้
แม้จะมี Fuse หรือ Circuit Breaker ป้องกันระบบอยู่ แต่ก็จะยังมีช่วงเวลาการ Trip ของระบบป้องกันที่อาจทำให้ระบบขัดข้อง
ได้ก่อนตัดวงจร ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่คือ เครื่องเสีนอายุการใช้งานของเครื่องสั้นลง
3. ปัญหาไฟตก ไฟเกินอย่างต่อเนื่อง (Under and Over Voltage)
มักจะเกิดขึ้นได้ทั้งในเมืองและในชนบทที่ห่างไกล สาเหตุอาจมาจากการใช้กำลังไฟฟ้าไม่เหมาะสมกับแหล่วงจ่ายไฟฟ้า
ในสายเดียวกัน บางเวลาผู้ใช้กำลังไฟฟ้ามาก แรงดันไฟฟ้าจะลดลงและบางเวลาในวันเดียวกันนั้น ผู้ใช้อาจจะทำให้แรงดันไฟฟ้าสูงขึ้นได้
ปัญหาไฟตกมักจะเกิดจากการที่มีการใช้พลังงานมาก ซึ่งอาจเกิดจากมีโหลดมากเกินไป หรือสายไฟมีขนาดเล็กไป
โดยไฟตกลงประมาณ 15%
ปัญหาไฟเกินมักจะก่อความเสียหายให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า สาเหตุอาจมาจากการจ่ายไฟผิดปกติหรือเกิดจากการ
เปิดโหลดขนาดใหญ่
4. ปัญหาไฟดับหรือไฟกระพริบ (Interruption)
ลักษณะของไฟดับ (Power Failure) มีอยู่ 2 ลักษณะต่อระบบคอมพิวเตอร์
ไฟกระพริบ ทำให้เกิดการขาดหายไปของไฟฟ้าระยะสั้น เช่น การ Trip ของระบบ Relay ในการจ่ายไฟฟ้าของสถานี
จ่ายไฟฟ้าซึ้งแม้จะเกิดเพียงระยะสั้นมาก แต่ความจำในระบบก็จะถูกลบไป
ไฟดับ เนื่องมาจากระบบจ่ายไฟเสีย หรือเกิดการลัดวงจร แม้ว่าไฟดับจะไมมีผลต่อความเสียหายของเครื่องคอมพิวเตอร์
นอกจากเครื่องหยุดทำงานและความจำถูกลบเลือน แต่จากสถิติพบว่าการมาใหม่ของไฟฟ้า อาจมาสูงกว่ากำหนดในช่วงมาใหม่
(คือเกิดการกระชากของไฟฟ้า) จะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์มีอายุการใช้งานสั้นลงหรือเสียหายได้
5. ปัญหาสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า (Noise and Transient)
สัญญาณรบกวนในระบบไฟฟ้าที่เรามักจะพบเห็นเสมอได้แก่ พวก Noisec และ Transient Voltage
Noise หมายถึง คลื่นรบกวนซึ่งดดยทั่วไปจะมีขนาดไม่ใหญ่นักและมีความถี่สูง ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่องหรืออาจจะเกิดขึ้น
เป็นระยะๆ Noise จะเข้าสู่ระบบไฟฟ้า โดยการเหนี่ยวนำไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่ พวก Surge Voltage และ Spike Voltage, Transient Voltage
อาจจะเกิดขึ้นจากฟ้าผ่า การตัดต่อโหลดบางชนิด เช่น การปิดสวิทซ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเชื่อมโลหะมอเตอร์ สถานีวิทยุกระจายเสียง
และอุปกรณ์อื่นๆ เป็นต้น
6. ความถี่ผิดพลาด (Frequency Error)
โดยส่วนใหญ่ความถี่ผิดพลาดมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก นอกจากระบบจ่ายกำลังไฟฟ้ามีความคงที่ เช่น
เครื่องกำเนิดไฟฟ้ามีขนาดเล็กที่ไม่เหมาะสมกับ Losd ที่เปลี่ยนแปลง และระบบมีขนาดเล็กเกินจะทำให้เกิดความถี่ไม่ถูกต้อง
แต่อาจมีสาเหตุมาจากการเปิดปิดเครื่องจักรขนาดใญ่ในสายเดียวกัน transient Variation หรือาจทำให้ระบบที่มีขนาดเล็กอยู่แล้ว
เกิด OCS (Ocsillate) ซึ่งอาจมีผลต่อคอมพิวเตอร์ในแง่ของข้อมูลผิดพลาดเนื่องจากความถี่ไม่คงที่